|
|
|
4 คำถามต้องรู้… ก่อนคิดซ่อมรถ |
เมื่อวันที่
5 ก.พ. 2555 อ่าน
670 ครั้ง |
|
|
ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ เรารู้ดีว่าหลายคนมีภาระมากมาย แม้ปัจจุบันรถยนต์จะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการเดินทางของคนไทย แต่วันนี้ถ้าคุณมีรถแล้วมันเกิดเสีย การซ่อมมันกลับมาใช้ ก็ต้องมั่นใจว่ามันจะคุ้มค่า
รื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยคิด ซึ่งส่วนหนึ่งมันมาจากลูกเกรงใจของคนไทย ที่มักจะเออออห่อหมก โดยไม่คิดก่อนที่จะทำอะไร ทำให้บางครั้งกลายเป็นปัญหา แทนที่จะได้รถเก่าแสนดีมาใช้งานแบบเสียเงินครั้งเดียวแล้วลาจากอู่ กลับกลายเป็นต้องใช้บริการมันไปเรื่อยๆ ซึ่งวันนี้ถ้าคุณกำลังมีปัญหาเหล่านี้ ทาง Thaicarlover.com ก็มีเทคนิคดีๆ 4 ข้อ มาฝากครับ
1.ปัญหานี้แก้ได้หายขาดหรือไม่ ปัญหามากมายสามารถเกิดขึ้นได้กับรถเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกกลไกต่างๆ ที่ทุกอย่างมีอายุการใช้งานของมันเองปัญหาของรถนั้นมีหลายสาเหตุ แต่ที่สำคัญ คุณต้องรู้ว่ามันจะซ่อมให้หายขาดได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเสียเงินแล้ว ต้องเสียให้คุ้มกับการใช้งานในอนาคตข้างหน้า อย่างเช่นเครื่องพัง การยกเครื่องใหม่อาจเป็นทางออกที่ดีกว่า หรือเป็นไปได้ลองศึกษาดูว่ามีอะไหล่รถรุ่นไหนสามารถทดแทนกันได้หรือไม่ แล้วลองคิดตามว่าถ้าทำมันจะหายจากอาการที่เป็นหรือเปล่า ซึ่งส่วนหนึ่งต้องปรึกษาผู้รู้ที่ซึ่งอาจไม่ใช่ช่างที่คุณนำรถไปซ่อม
2. ราคาค่าใช้จ่าย ทุกครั้งที่รถเสียมันหมายถึงค่าใช้จ่าย ซึ่งคุณจำเป็นต้องศึกษาดูถึงค่าใช้จ่ายในการซ่อม ว่าเป็นราคาที่รับได้หรือไม่ อะไรที่จะถูกเปลี่ยนใหม่ อะไรที่จะยังใช้ของเก่า ซึ่งต้องศึกษาให้ดีอู่ที่ได้มาตรฐานจะประมาณการงบประมาณได้ก่อนทำงาน ซึ่งตรงนี้อาจจะประวิงเวลาให้คุณคิดก่อนตัดสินใจซ่อมแซมรถสุดที่รัก และพยายามสอบถามจากผู้ใช้รถรุ่นเดียวกันกับคุณ หรือเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์ ว่าราคาที่ได้มาสมเหตุผลหรือไม่
3. ผลที่ตามมาหลังการซ่อม ในตอนที่แล้วเราพูดถึงการซ่อมรถ ซึ่งเราต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาว่ามันจะหายขาดหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าบางอย่างสามารถทำได้แล้วหายเป็นปลิดทิ้ง แถมอาจจะดีกว่าเดิมเสียอีก แต่ข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง บางอย่างอาจไม่เป็นไปตามที่คิด และบางครั้งอาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายภายหลัง เช่น การวางเครื่อง คุณอาจจะต้องเซทช่วงล่างเพิ่ม เพราะน้ำหนักเครื่องอาจมากกว่าที่ช่วงล่างจะรับได้ เป็นต้น ซึ่งเรื่องแบบนี้อู่มักจะไม่บอก
นอกจากนั้น เมื่อคุณทำการดัดแปลงเครื่องยนต์ไปแล้ว รถคันนั้นจะราคาตกทันที เพราะฉะนั้นควรคิดให้รอบคอบถึงผลระยะยาวด้วย
4. รถคันนี้ใช้คุ้มรึยัง หลายคนมักจะคิดว่าตัวเองยังใช้รถไม่คุ้มค่า ซึ่งบางคนใช้รถมากว่าหลาย 10 ปี ก็ซ่อมแล้วซ่อมอีก จนสุดท้ายเหนื่อยที่จะซ่อม นำไปสู่การขายทิ้ง และซื้อรถคันใหม่อีกอยู่ดี ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วมากมาย เราเลยอยากให้มองว่ารถคันนี้คุ้มทุนแล้วหรือยัง โดยเฉพาะ ถ้ารถคันนั้นมีอายุเกิน 7 ปี หรือมีระยะทางเกิน 1.5 แสนกิโลเมตรแล้ว มันอาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรถใหม่
นอกจากนั้นแล้ว หลายๆ คนมักคิดว่ารถของตนเพิ่งผ่อนหมด ทำไมต้องเร่งให้ซื้อรถใหม่ ทว่ารถเก่าก็เหมือนคนแก่ ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอในทุกชิ้นส่วน และยิ่งถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยมีเวลา หรือไม่ค่อยถนัดเกี่ยวกับรถยนต์นัก การนำมันไปแลกเปลี่ยนคันใหม่มาขับแบบสบายใจ แล้วคิดว่าไม่ต้องมีปัญหาวุ่นวายกับอู่ แต่อาจทดแทนด้วยค่าผ่อนรถรายเดือน มันน่าจะคุ้มกว่าไหม แถมรถใหม่ๆ ยังมีสมรรถนะที่ดีขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย
ที่มา : thaicarlover.com
|
|
|
|
|